Usana น้ำมันปลา… บำรุงสมอง เสริมความจำ ป้องกันโรคสมองเสื่อม
น้ำมันปลา คือ น้ำมันที่สกัดมาจากปลาจากแหล่งธรรมชาติ มีส่วนประกอบคือ โอเมก้า-3 (Omega-3) ซึ่งเป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัว ซึ่งเป็นกรดไขมันที่มีความจำเป็นต่อร่างกาย และร่างกายไม่สามารถสร้างขึ้นมาเองได้ จึงต้องได้รับจากการบริโภคอาหารเท่านั้น
เพื่อประโยชน์สูงสุดในการบริโภคน้ำมันปลา ควรเลือกน้ำมันปลาที่มาจากปลาทะเลน้ำลึกที่มีไขมันสูง ซึ่งมักเป็นปลาน้ำเค็มในเขตหนาว เช่น ปลาในทะเลน้ำลึกประเทศนอร์เวย์ เพราะบริเวณนั้นเป็นแหล่งทะเลน้ำลึกที่สะอาดบริสุทธิ์ และมีสิ่งแวดล้อมและอาหารที่เหมาะสมแก่การสร้างโอเมก้า-3 ในเนื้อปลา ทำให้คุณภาพปลามีปริมาณโอเมก้า-3 สูงสุด
ทั้งนี้การรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจำพวกน้ำมันปลา ผู้บริโภคมักต้องการประโยชน์หลักจากสารในกรดไขมันไม่อิ่มตัวชนิด Omega-3 ซึ่งร่างกายไม่สามารถสร้างเองได้ คือ EPA (Eicosapentaenoic acid) และ DHA (Docosahexaenoic acid) ซึ่งมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงจากโรคหัวใจบางชนิด, อาการปวดข้อ, การอักเสบและช่วยในด้านความจำ โดยเฉพาะ DHA เป็นส่วนประกอบสำคัญของสมอง และดวงตา ช่วยเสริมสร้างพัฒนาการทางสมองในเด็ก ได้อีกด้วย
มีการศึกษาในมนุษย์เกี่ยวกับประสิทธิภาพของโอเมก้า-3 ในเรื่องเกี่ยวกับระดับไขมันชนิดไตรกลีเซอไรด์ในกระแสเลือด, ความดันโลหิต, การป้องกันความเสี่ยงในการกลับเป็นซ้ำของโรคหลอดเลือดหัวใจ, การลดการปวดข้อและข้ออักเสบรูมาตอยด์ และอื่น ๆ อยู่พอสมควร(2,8,9) นอกจากนี้ยังมีรายงานจากการศึกษาที่ตีพิมพ์ในปี พ.ศ. 2559 ว่าการใช้น้ำมันปลาอาจมีผลดีกับความจำเมื่อใช้ร่วมกับวิตามินบีบางชนิด เช่น วิตามินบี 6 และวิตามินบี 12 ได้อีกด้วย อย่างไรก็ดี พึงตระหนักว่าผลิตภัณฑ์เสริมอาหารนั้นไม่สามารถใช้รักษาโรคได้
ดังนั้น การรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจำพวกน้ำมันปลาส่วนใหญ่แล้วผู้บริโภคมักต้องการประโยชน์จากสาร Omega-3 คือ EPA และ DHA เป็นหลัก ซึ่งประโยชน์จากการรับประทานสารจำพวก Omega-3 ที่พบว่ามีการศึกษาในมนุษย์ยืนยันประสิทธิภาพค่อนข้างมาก ได้แก่
- การลดระดับไขมันไตรกลีเซอไรด์ (triglyceride) ในกระแสเลือด
- การลดระดับความดันโลหิตสูง เพื่อช่วยทำให้หลอดเลือดขยายตัว และป้องกันการอุดตันของหลอดเลือด ทำให้การไหลเวียนเลือดดีขึ้น ลดความหนืดของผนังหลอดเลือด ทำให้ผนังหลอดเลือดมีความยืดหยุ่น ทำให้ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของระบบหลอดเลือดและหัวใจ
- ลดการเกาะตัวของเกล็ดเลือด ทำให้เลือดไม่เกาะตัวกันเป็นลิ่ม (ป้องกันการแข็งตัวของเลือด)
- ลดการปวดข้อและข้ออักเสบรูมาตอยด์
และนอกจากนั้นแล้ว
น้ำมันปลา… บำรุงสมอง เสริมความจำ ป้องกันโรคสมองเสื่อม
เสริมการทำงานของเซลล์สมอง ป้องกันโรคสมองเสื่อม
จากการศึกษาพบว่า 40% ของกรดไขมันในสมอง และ 60% ของกรดไขมันในประสาทตา คือ กรดไขมัน DHA (Docosahexaenoic Acid) ทำให้กรดไขมัน DHA ในน้ำมันปลา มีบทบาทที่สำคัญและจำเป็นต่อสมอง ผลวิจัยทางการแพทย์จากมหาวิทยาลัย UCLA ของอเมริกา พบว่าการรับประทานน้ำมันปลาช่วยป้องกันสมองเสื่อมหรือโรคอัลไซเมอร์ (Alzheimer) ได้ เนื่องจากการศึกษาเกี่ยวกับโรคอัลไซเมอร์ในผู้สูงอายุกว่า 1,000 คน เป็นเวลา 10 ปี พบว่าระดับกรดไขมัน DHA ที่ลดต่ำลงก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคสมองเสื่อมได้ และยังพบว่าสำหรับคนไข้อัลไซเมอร์นั้น กรดไขมัน DHA จะช่วยเพิ่มสาร LH11ซึ่งเป็นโปรตีนที่เป็นตัวช่วยลดการเกิดการสร้าง Plaques (เส้นใย หรือ ไฟบริล) ในสมอง ซึ่งเป็นตัวการที่ทำลายใยประสาทส่วนความจำ ดังนั้นผู้สูงอายุที่มีสารนี้มากในสมอง จะทำให้ความจำเสื่อม และหลงลืมง่าย
ลดภาวะซึมเศร้า
จากการวิจัยพบว่าผู้ที่บริโภคปลาเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง มีอัตราเป็นโรคซึมเศร้าต่ำ เพราะสมดุลของกรดไขมันในร่างกายมีผลต่อความรุนแรงในการเกิดโรคซึมเศร้า คนที่มีระดับของกรดไขมันโอเมก้า-3 ต่ำ และโอเมก้า-6 สูง จะมีโอกาสเกิดภาวะซึมเศร้ามากกว่าปกติ ซึ่งการรักษาคนไข้ซึมเศร้าในโรงพยาบาลพบว่ากรดไขมัน DHA ให้ผลในการรักษาอย่างมีนัยสำคัญ เมื่อเทียบกับคนไข้ที่ไม่ได้รับกรดไขมันชนิดนี้
No responses yet