คำพูดสุดท้าย “สตีฟ จอบส์”
อ่าน 1 นาทีเตือนสติ! บทเรียนล้ำค่าในช่วงชีวิตสุดท้ายของ Steve Jobs
เชื่อไหมว่า ไม่มีใครที่จะไปเข้าใจชีวิต ตะหนักกับชีวิต หรือรู้ซึ้งกับชีวิตเท่ากับเท่าคนที่นอนป่วยใกล้ตายอยู่บนเตียง การเจ็บไข้ ล้มป่วยแม้จะเป็นสิ่งที่เลวร้ายที่สุด แต่ก็เป็นเรื่องดีที่จะทำให้ตัวเรานั้นได้หยุดคิดกับชีวิต ทบทวนอดีตที่ผ่านมามากขึ้น อย่างเช่น Steve Jobs ตำนานผู้เปลี่ยนแปลงโลกคนนี้ ได้กล่าวเอาไว้ก่อนที่จะสิ้นลมหายใจ
สตีฟ จอบส์ เสียชีวิตลงในขณะที่เป็นมหาเศรษฐี กับทรัพย์สินที่มูลค่าถึง 7 พันล้านเหรียญ (ประมาณ 2 แสนกว่าล้านบาท) อายุเพียง 56 ปี ด้วยมะเร็งตับ และนี้คือคำพูดสุดท้ายของเค้า…
“ผมประสบความสำเร็จอย่างมากในด้านธุรกิจ หรืออาจกล่าวว่าชีวิตผมเป็นตัวอย่างที่เด่นชัดของความสำเร็จแต่นอกจากการทำงานแล้ว ผมไม่ได้มีความสุขนัก เพราะในที่สุด ความร่ำรวยก็กลายเป็นสิ่งเดียวที่ผมมีในขณะนี้ ผมกำลังนอนป่วยอยู่บนเตียงและพยามยามรำลึกถึงชีวิตของผมที่ผ่านมา ผมพบว่าความร่ำรวยที่ผมเคยภูมิใจ กลับไม่มีค่าอะไรเลยในช่วงสุดท้ายที่ผมกำลังจะตาย
ในความมืด ผมมองเห็นเพียงแสงสีเขียวและเสียงของเครื่องช่วยหายใจ ซึ่งทำให้ผมรู้ว่าความตายใกล้เข้ามาแล้วตอนนี้ผมเพิ่งตระหนักว่า เมื่อเราร่ำรวยพอแล้ว เราควรหันไปใส่ใจกับเรื่องอื่นๆ บ้าง ซึ่งอาจเป็นสิ่งอื่นๆที่สำคัญ เช่น งานศิลป์ ที่เราเคยใฝ่ฝันในตอนเด็กๆ การไม่ยอมหยุดสร้างความร่ำรวย จะทำให้ต้องมีชีวิตเหมือนที่ผมเป็น
พระเจ้าได้มอบความรักไว้ในหัวใจของมนุษย์ทุกคน ซึ่งไม่สามารถซื้อหาได้ด้วยเงิน เมื่อผมตาย ผมเอาความร่ำรวยไปด้วยไม่ได้ สิ่งที่ผมจะนำติดตัวไปคือความทรงจำเกี่ยวกับความรักเท่านั้น ซึ่งเป็นความร่ำรวยที่แท้จริง และจะเป็นแสงนำทางให้กับเราต่อไปความรักจะติดตามเราไปได้ทุกที่ เพราะมันอยู่ในหัวใจ และในมือของเราเอง
คุณสามารถจ้างคนมาขับรถให้ มาทำงานหาเงินให้ แต่ไม่มีใครมาป่วยแทนคุณได้ สิ่งของใดๆ ที่หายไป เราอาจหาพบได้ แต่เราเอาชีวิตที่เสียไปกลับคืนมาไม่ได้ เมื่อเราเข้าไปอยู่ในห้องผ่าตัด เราจะตระหนักได้ว่า เราใส่ใจสุขภาพของตัวเองน้อยเกินไป แต่เรามักจะรู้ตัวเมื่อสายเกินไปเสมอ
จงให้ความรักกับครอบครัว กับคนรัก และเพื่อนๆ หมั่นดูแลสุขภาพของตัวเองและใส่ใจคนรอบข้างให้มากๆ สิ่งที่พิสูจน์แล้ว เงิน เวลา สุขภาพ สุขภาพคือสิ่งสำคัญที่สุด เวลา และเงิน คือสิ่งสำคัญรองลงมา”
ขอบคุณแหล่งข้อมูล : RUGYIM.COM
No responses yet